somsak
FULL MEMBER
- Joined
- Jun 27, 2014
- Messages
- 1,320
- Reaction score
- 0
- Country
- Location
Here is an artical from a Thai financial market and geopolitical strategist. Lets see what he is saying.
Uighurs, Rohingyas, Aviation safty, Pressuring Thailand for democracy, and EU condemnation/pressure of Thailand over fishery, etc. if we thoroughly look, it is an international conspiracy to sabutage Thailand internal security because Thailand does not yet show any sign to be under Washington D C's power.
Recently Pentagon Report on "National Military Strategy of the United States of America 2015" clearly written that US military has changed their policy from fighting with terrorism to confronting those countries who challenge the international norm
Paul Craig Roberts , ex- US treasury assistant under Regan administration describes "countries who challenge the international norm are countries whose policy is independent or free from Washington D.C."
Pentagon report written that those countries are Russia, China, Iran and North Korea. Mr. Roberts explains more that "these countries are not harmful to the US because they have plan to militarily attack US, but because they are independent, such that US is not a sole super power."
In easy words, the enemy of the US is no more ISIS but Russia and China.
Actually Pentagon wants to focus on Russia, and still have some trial to take China as ally to encircle Russia not to get big. Eventhough there are threat given to China that tensions in Pacific results from China expansion, especially on South China Sea, which is not in accordance with international law.
We already seen what fate lies for countries who does not bow to Pentagon. For example Iraq, Afghanistan, Libya, Syria, Somalia, Yemen, Pakistan, Ukraine, and including Palestine.
Lately, we can see US using “international culture” to use with Thailand on every story in order to pressure Thailand or to make Thailand a devil country on international stage. This is because Thailand has not yet comply to be included in the forefront to encircle China. US is getting into downward spiral, while Russia and China is going upward spiral, therefore (US - translator) is working on many policies to collapse Russia and China to maintain the status of sole superpower.
Last try to pull Thailand to be ally for China encirclement happened at Shangri-la Diaglogue at Singapore not too long ago when Ashton Carter, US military minister was trying to invite General Pravit Wongsuwan, Thailand military minister to join hand to encircle China. If the answer is Ok, he will help all Thailand international problems, eg. Rohingya, Human Rights, Democracy (For which those problems are created and given to Siam
)
Thailand just half accept half fight on this issue because we have friendship with China as great friend and has US as ally since the end of WW2. If 2 countries has conflict, should manage by themself and not to bring Thailand to join because we are no gain no loose on this issue.
This is the Thailand position. But it is the position DC cannot accept, because D.C policy is that every country must do whatever DC want.
When Thailand get naughty not easily be good boy, we can see each action of US and EU more and more unfriendly to Thailand, especially after the coup. Declaration of US and EU on Thailand all terrible.
Highlight is Daniel Russel, US deputy foriegn ministry, visits to Thailand to lecture Thailand on democracy, and support Yingluck Shinawatra. This is Thailand internal politic involvment. Later he pressure Thailand on Rohingya issue, and support to Coup reactionary, and aviation safty, and EU yellow card to Thailand on Fishery. Lately also Uighurs issue where there was destruction on Thai Embassy in Turkey.
All the issues are created. They are not naturally occurred.
Despite Russia sanction, DC also cheers Wall street gangs behind China stock market collapsing events a month ago. Because (China- Translator) do not accept to be ally with US.
Thailand must be very wary. Bad things will happened more and more after Uighurs poisons. Though Thailand sent Uighurs to Turkey and China with both Chinese and Turkish UNHCR persons come to check, leaving only around 60 Uighurs who are not yet pass nationality proven process. Thailand has been trying to keep down Uighur issue, but still it become an issue, with the risk to be a religious issue.
When terrorist happened in South Thailand to destroy T.hailand security, D.C never help or look the otherway, but other issues, which are non issue DC blame Thailand.
Like this, we should be wary on our good friend because later will play on Thailand has "no international norm/culture" on Uighurs, "no international norm on Rohingya", "no intenational norm on democracy",and other "no international norms" , which leads to sanction of Thailand at the end, just like Russia got.
thanong
11/7/2015
Translated: Thailand is tarketed by Washington D.Cเรื่องอุยกูร์ โรฮิงญา ความปลอดภัยในการบิน การกดดันให้ไทยกลับไปมีการเลือกตั้ง ดาวดิน รวมทั้งการให้อียูเล่นงานไทยเรื่องประมง ฯลฯจะดูให้ดีๆ จะเห็นชัดว่าล้วนแล้วแต่มีส่วนเชื่อมโยงกันเป็นการสมคบระหว่างประเทศ (international conspiracy)เพื่อทำลายความมั่นคงของไทย เนื่องจากว่าประเทศไทยยังไม่แสดงทีท่าที่ชัดเจนที่จะยอมอยู่ใต้อิทธิพลของ วอชิงตัน ดีซี
รายงานล่าสุดของเพนตากอนชื่อว่า “National Military Strategy of the United States of America 2015” http://news.usni.org/…/document-2015-u-s-national-military-… ระบุชัดเจนว่า ฝ่ายทหารของสหรัฐได้เปลี่ยนนโยบายความมั่นคง จากที่เคยเน้นการสู้รบกับผู้ก่อการร้าย มาเป็นการเผชิญหน้ากับรัฐประเทศที่ท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศ (international norms)
Paul Craig Roberts อดีตผู้ช่วยคลังสหรัฐสมัยประธานาธิบดีเรแกนอธิบายว่า “ประเทศที่ท้าทายธรรมเนียมปฎิบัติระหว่างประเทศ คือประเทศที่ดำเนินนโยบายเป็นเอกเทศ หรืออิสระจากวอชิงตันดีซี”
รายงานเพนตากอนระบุว่า ประเทศที่ท้าทายธรรมเนียมปฎิบัติระหว่างประเทศนี้คือ รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และอิหร่าน แต่คุณRobertอธิบายต่อไปว่า “ประเทศ เหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยต่อสหรัฐเพราะว่ามี แผนโจมตีสหรัฐทางทหาร แต่เนื่องจากต้องการดำเนินนโยบายเป็นเอกเทศที่ไม่ให้สหรัฐเป็นมหาอำนาจของ โลกแต่ผู้เดียว”
พูดง่ายๆ ศัตรูตัวยงของสหรัฐไม่ใช่ไอซิสอีกต่อไป แต่เป็นรัสเซียและจีน
ความจริงแล้วเพนตากอนต้องการพุ่งเป้าไปยังรัสเซีย ยังมีความพยายามที่จะดึงจีนเป็นพันธมิตรเพื่อปิดล้อมรัสเซียไม่ให้ผงาดอยู่ ถึงแม้จะมีการขู่จีนว่าความตึงเครียดในภูมิภาคแปซิฟิคเกิดจากอิทธิพลที่ ขยายตัวของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนใต้ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ
เราได้เห็นแล้วว่าประเทศที่ไม่ก้มหัวให้ เพนตากอนมีชะตากรรมอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น Iraq, Afghanistan, Libya, Syria, Somalia, Yemen, Pakistan, Ukraine, รวมทั้งPalestine
มาระยะหลังนี้ จะเห็นได้ว่าสหรัฐเริ่มใช้ “ธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศ” มาใช้กับไทยเกือบทุกเรื่อง เพื่อกดดันไทย หรือให้ให้ไทยเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก เนื่องจากว่าไทยยังไม่ยอมตกลงที่จะร่วมขบวนการเป็นทัพหน้าในการปิดล้อมจีน สหรัฐกำลังเข้าสู่จุดเสื่อม ส่วนรัสเซียและจีนกำลังผงาด จึงดำเนินนโยบายทุกอย่างเพื่อที่จะล้มรัสเซียและจีนให้ได้เพื่อคงความเป็น มหาอำนาจโลกแต่ผู้เดียวของตัวเอง
ความพยายามล่าสุดของสหรัฐในการดึงไทยเป็นพันธะมิตรเพื่อปิดล้อมจีนเกิดขึ้น ในการประชุม Shangri-la Diaglogue ที่ สิงคโปร์เมื่อไม่นานมานี้ โดยที่นาย Ashton Carter รมว.กลาโหมสหรัฐ พยายามเกลี้ยกล่อมพลเอก ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมไทยร่วมมือในการปิดล้อมจีน ถ้าตอบตกลง เขาจะช่วยจัดการปัญหาระหว่างประเทศให้ไทยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรฮิงญา สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย(ซึ่งปัญหาเหล่านี้พวกพ่อคุณทูนหัวนั่นแหละที่สร้างขึ้นมา และประเคนซัดถาโถมใส่สยามประเทศ
ไทยแค่แบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องนี้ เพราะว่าเราคบจีนเป็นมหามิตรและมีสหรัฐเป็นพันธมิตรตั้งแต่หลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ถ้าทั้งสองประเทศมีความขัดแย้งกัน น่าที่จะจัดการกันเอง ไม่ควรดึงไทยเข้าร่วมด้วย เพราะว่าเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร
นี้คือจุดยืนของฝ่ายไทย แต่เป็นจุดยืนที่ดีซียอมรับไม่ได้ เพราะว่านโยบายของดีซีคือทุกประเทศต้องทำตามสิ่งที่ดีซีต้องการ
เมื่อประเทศไทยดื้อดึง ไม่ยอมเป็นเด็กดี เราจึงได้เห็นท่าทีแต่ละอย่างของสหรัฐและอียูที่ไม่เป็นมิตรกับไทยมากยิ่ง ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการทำรัฐประหารเป็นต้นมา แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐและอียูต่อประเทศไทยเลวร้าย ทั้งนั้น
ไฮไลท์คือการมาเยือนไทยของนาย Daniel Russel รองรมว.ต่างประเทศสหรัฐที่เลคเช่อร์ไทยเรื่องประชาธิปไตย และสนับสนุนน้องปูอย่างออกหน้าออกตา ถือว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย โดนไทยประท้วงจนต้องถอยฉาก แต่แค่ถอยเอาเชิง แล้วกลับมารุกไทยใหม่ผ่านการกดดันในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้อพยพโรฮิงญา การสนับสนุนกลุ่มผู้ต้านบิ๊กตู่ เรื่องความปลอดภัยของดูแลสายการบินจากไทย อียูแจกใบเหลืองไทยเรื่องประมง และล่าสุดเรื่องอุยกูร์ที่มีการทำลายสถานทูตไทยในตุรกี
ทุกเรื่องเป็นการสร้างเรื่องทั้งนั้น ไม่ได้เกิดตามเหตุปัจจัยตามปกติ
นอกจากจะแซงชั่นรัสเซีย ดีซียังให้ท้ายแก๊งค์Wall Street อยู่เบื้องหลังการถล่มตลาดหุ้นจีนอย่างแยบยลในช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ยอมเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ
ประเทศไทยต้องระวังตัวกันดี เพราะว่าเหตุร้ายน่าจะเพิ่มขึ้นตามลำดับหลังพิษอุยกูร์ ทั้งๆที่ไทยส่งอุยกูร์กลับตุรกี และจีนโดยที่UNHCR เจ้าหน้าที่จีนและตุรกีมาดูแลช่วยตรวจสอบ เหลือแค่60คนโดยประมาณที่ยังตรวจสอบสัญชาติไม่ได้ ไทยพยายามไม่ให้อุยกูร์เป็นเรื่อง แต่ก็กลายเป็นเรื่องขึ้นไปได้ โดยมีความเสี่ยงให้กลายเป็นเรื่องศาสนา
ทีการก่อการร้ายในภาคใต้ประเทศไทยเพื่อ ทำลายความมั่นคง ดีซีไม่เคยช่วยแม้แต่น้อย หรือทำเป็นมองไม่เห็น แต่เรื่องอื่นๆที่ไม่เป็นเรื่องกลับมาออกหน้าออกตาประนามไทย
อย่างนี้ เราควรต้องระวังมิตรที่แสนดีแล้ว เพราะว่าต่อไปจะเล่นงานไทยที่ไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศเรื่อง อุยกูร์ ไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศเรื่องโรฮิงญา ไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศเรื่องประชาธิปไตยการเลือกตั้ง ไม่มีธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศสาระพัดเรื่องอันนำไปสู่การแซงชั่น ประเทศไทยในที่สุด เหมือนที่รัสเซียโดน
thanong
11/7/2015
Uighurs, Rohingyas, Aviation safty, Pressuring Thailand for democracy, and EU condemnation/pressure of Thailand over fishery, etc. if we thoroughly look, it is an international conspiracy to sabutage Thailand internal security because Thailand does not yet show any sign to be under Washington D C's power.
Recently Pentagon Report on "National Military Strategy of the United States of America 2015" clearly written that US military has changed their policy from fighting with terrorism to confronting those countries who challenge the international norm
Paul Craig Roberts , ex- US treasury assistant under Regan administration describes "countries who challenge the international norm are countries whose policy is independent or free from Washington D.C."
Pentagon report written that those countries are Russia, China, Iran and North Korea. Mr. Roberts explains more that "these countries are not harmful to the US because they have plan to militarily attack US, but because they are independent, such that US is not a sole super power."
In easy words, the enemy of the US is no more ISIS but Russia and China.
Actually Pentagon wants to focus on Russia, and still have some trial to take China as ally to encircle Russia not to get big. Eventhough there are threat given to China that tensions in Pacific results from China expansion, especially on South China Sea, which is not in accordance with international law.
We already seen what fate lies for countries who does not bow to Pentagon. For example Iraq, Afghanistan, Libya, Syria, Somalia, Yemen, Pakistan, Ukraine, and including Palestine.
Lately, we can see US using “international culture” to use with Thailand on every story in order to pressure Thailand or to make Thailand a devil country on international stage. This is because Thailand has not yet comply to be included in the forefront to encircle China. US is getting into downward spiral, while Russia and China is going upward spiral, therefore (US - translator) is working on many policies to collapse Russia and China to maintain the status of sole superpower.
Last try to pull Thailand to be ally for China encirclement happened at Shangri-la Diaglogue at Singapore not too long ago when Ashton Carter, US military minister was trying to invite General Pravit Wongsuwan, Thailand military minister to join hand to encircle China. If the answer is Ok, he will help all Thailand international problems, eg. Rohingya, Human Rights, Democracy (For which those problems are created and given to Siam
)Thailand just half accept half fight on this issue because we have friendship with China as great friend and has US as ally since the end of WW2. If 2 countries has conflict, should manage by themself and not to bring Thailand to join because we are no gain no loose on this issue.
This is the Thailand position. But it is the position DC cannot accept, because D.C policy is that every country must do whatever DC want.
When Thailand get naughty not easily be good boy, we can see each action of US and EU more and more unfriendly to Thailand, especially after the coup. Declaration of US and EU on Thailand all terrible.
Highlight is Daniel Russel, US deputy foriegn ministry, visits to Thailand to lecture Thailand on democracy, and support Yingluck Shinawatra. This is Thailand internal politic involvment. Later he pressure Thailand on Rohingya issue, and support to Coup reactionary, and aviation safty, and EU yellow card to Thailand on Fishery. Lately also Uighurs issue where there was destruction on Thai Embassy in Turkey.
All the issues are created. They are not naturally occurred.
Despite Russia sanction, DC also cheers Wall street gangs behind China stock market collapsing events a month ago. Because (China- Translator) do not accept to be ally with US.
Thailand must be very wary. Bad things will happened more and more after Uighurs poisons. Though Thailand sent Uighurs to Turkey and China with both Chinese and Turkish UNHCR persons come to check, leaving only around 60 Uighurs who are not yet pass nationality proven process. Thailand has been trying to keep down Uighur issue, but still it become an issue, with the risk to be a religious issue.
When terrorist happened in South Thailand to destroy T.hailand security, D.C never help or look the otherway, but other issues, which are non issue DC blame Thailand.
Like this, we should be wary on our good friend because later will play on Thailand has "no international norm/culture" on Uighurs, "no international norm on Rohingya", "no intenational norm on democracy",and other "no international norms" , which leads to sanction of Thailand at the end, just like Russia got.
thanong
11/7/2015
Last edited:
